(https://freelydays.com/wp-content/uploads/2023/04/6-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A2.%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%88%E0%B8%99-696x364.jpg)"ความขาดแคลน" เกิดเรื่องใกล้ตัวมากยิ่งกว่าที่คุณคิด เมื่อต้นปี 2015 หน่วยงานต้านทานความย า กจนกระทั่ง "อ๊อกเฟม" ได้เผยแพร่ข้อมูลในเมืองดาวอส สำหรับในการประชุม เวิล์ด อีวัวโนมิค ฟอรัม กล่าวว่า คนที่มั่งคั่งที่สุดในโลก 1% เป็นเจ้าของความมั่งคั่งมากถึง 48% ของความรวยบนโลก แล้วคุณมีความคิดว่า! ในประเทศไทย
คนมั่งมีที่สุดจะครอบครองความร่ำรวยไปมากแค่ไหน? แล้วจะเหลือพื้นที่กี่เปอร์เซ็นต์ไว้ให้ท่าน วันนี้! ถ้าคุณยังไม่ตื่นตัวพัฒนาตัวเอง ก็พอๆกับคุณกำลังก้าวลงสู่ความจน (https://freelydays.com/13475/)ไปทุกๆวัน
และเปอร์เซ็นต์ความร่ำรวยของคุณก็จะยิ่งถูกคนมั่งมีขย า ยอาณาบริเวณไปเรื่อยมาดู 6 ข้อนี้ที่จะทำให้คุณยิ่งจนกระทั่งลง ถ้ายังคงทำอยู่ในทุกวันของชีวิตแล้วก็ควรรีบปรับปรุงแก้ไขโดยเร่งด่วน!
1. ดำรงชีวิตเกินค่ายังชีพ
ผู้คนจำนวนมากดำเนินชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ทั้งจับจ่ายใช้สอยตามที่ใจต้องการ ซื้ อ ของที่อย า กได้ หรือแม้กระทั้งยอมติดหนี้ติดสินบัตรเครดิต เพียงเพื่ออยากได้ซื้ อ ข้าวของที่ไม่มีความสำคัญมาประดับชีวิตคุณให้ดูดี และ "ดูมี" ราวกับคนอื่นๆ บุคคลอื่นที่ว่าอาจทำเป็น เนื่องจากสถานะทางการเงินของเขาอาจมั่นคงจะหรือพร้อมกว่า แต่ว่าการใช้เงิน "เกินค่ายังชีพที่จำเป็นจะต้อง"
ได้แก่ กาแฟแก้วละ 35-40 บาท กับ กาแฟแก้วละ 100-170 บาท ราคากาแฟแก้วละเท่าไร? ที่คุณรู้สึกว่าซื้ อ ง่ายจ่ายสบายใจได้ทั้งยังเดือน โน่นคือราคากาแฟที่เหมาะสมกับค่ายังชีพที่คุณแบกรับไหว หากมีความคิดว่าหนักใจที่จะจ่ายแม้กระนั้นอย า กซื้ อ โน่นเป็นสัญญาณอั น ต ร า ยด้านการเงินที่คุณกำลังใช้เกินกำลังอยู่
2. หนักไม่เอา เบาไม่สู้
"ความอัตคัด" น่าขนลุกกว่าที่คุณคิด ถ้าหากคุณลองถามมหาเศรษฐีทุกคนที่เริ่มจากศูนย์ แต่ว่าขยันทำมาหากิน พัฒนาตัวเอง รวมทั้งกล้าก้าวผ่านความอ่อนเพลียจนตราบเท่าสร้างฐานะจนมั่งคั่ง
เค้าเหล่านั้นจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ไม่อย า กกลับไปกระทั่งอีก" แม้กระนั้นสำหรับผู้คนจำนวนมากที่ยังเป็นมนุษย์เงินเดือน หรือ พึ่งเริ่มธุรกิจส่วนตัว แต่ว่ายังไม่สู้งานหนัก
ไม่พร้อมกลับบ้ า นมืดค่ำ หรือเดินหนีปัญหาที่อยู่เบื้องหน้าที่ควรรับผิดชอบ ก็อาจย า กที่จะปรับปรุงไปสู่ความร่ำรวยทางด้านการเงิน เนื่องจากนาทีทองมาพร้อมหย า ดเหงื่อเสมอ
3. ผัดวัน ไม่มีวินัย ชิลไปวันๆ
สโลว์ไลฟ์ เป็นชีวิตชั้นสูง ที่ผู้ที่มีฐานะด้านการเงินพรั่งพร้อมเท่านั้น จึงจะพร้อมในการนั่งจิบกาแฟเรื่อยท่องเที่ยวแบบไม่เร่งรีบ บินท่องเที่ยวเมื่ออย า กไป ใช้เงินซื้ อ ความสบายสบายเท่าที่สุขใจ แต่กลับมาก่อน คุณยังติดหนี้ติดสิน คุณยังไม่มีการคลังป้อมปราการคงจะ คุณยังไม่มีความสบายมือสำหรับเพื่อการจับจ่ายใช้สอย
เพราะคุณยังไม่มีระเบียบทางด้านการเงินที่ดีและรัดกุม ที่สำคัญ! คุณยังปฏิบัติงานและก็คิดบัญชีแบบปล่อยเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย การเรียบเรียงชีวิตใหม่ จัดลำดับความสำคัญ 1 2 3 ว่าเป้าหมายที่คุณอยากได้ในชีวิตคืออะไร จะทำให้คุณคิดแผน ไม่หยุดปรับปรุงตนเอง แล้วก็สร้างระเบียบให้กับชีวิตที่อยากได้เร็วขึ้นเป็นเท่าตัว
4. ไม่อาจจะทำงานร่วมกับคนอื่น
"ไม่มีใครสามารถทำงานผู้เดียวได้" แม้กระทั้งอาชีพฟรีแลนซ์ ก็ยังจะต้องมีคอนเน็คชั่นเพื่อสร้างงานประสิทธิภาพให้ประสบผลสำเร็จ เมื่อคุณต้องปฏิบัติงานร่วมกับคนอื่นๆในกลุ่ม สิ่งจำเป็นไม่ใช่ผลงานที่ประสบความเร็จตามเป้า
แต่คือประสิทธิภาพสำหรับในการประสานงานให้เกิดผลลัพธ์สูงสุดดังที่ตั้งเป้าหมายไว้ หลายๆคนพลาดโอกาสสำคัญสำหรับในการรุ่งเรืองหรือเลื่อนขั้นงาน เนื่องจากไม่สามารถความเกี่ยวข้องกับผู้ที่มาร่วมงานคนอื่นๆได้
ก็เลยทำให้ผู้บริหารมีความคิดเห็นว่าคุณยังไม่เหมาะสมจะเลื่อนฐานะ หรือ ถ้าหากคุณทำธุรกิจอยู่ ก็คงติดขัดอย่างแน่แท้ ถ้าหากจำต้องร่วมหุ้นกับพาร์ทเนอร์เพื่อขย า ยธุรกิจ แม้กระนั้นคุณกลับประพฤติตนเป็นดารานำชายอยู่เพียงลำพัง และท่องเที่ยวบอกใครๆว่าคุณดำเนินการนี้สำเร็จถึงแม้ว่าได้ผลจากการทำงานด้วยกันของทีมงาน
5. กลัวการตั้งความมุ่งหมายในชีวิต
การพุ่งชนจุดหมาย อาจเป็นเรื่องน่าขนลุกสำหรับบางคน ได้แก่ คนที่ตั้งเป้าว่าจะ "ปลดหนี้" แต่กลัวการเห็นเงินในบัญชีพร่องลงจากการใช้หนี้ตรงตามเวลา หรือเปล่ามีวินัยสำหรับเพื่อการปลดหนี้ ก็เลยทำให้เลี่ยงการชำระหนี้ กระทั่งเป็นเหตุให้จะต้องแบกรับภาระด อ ก เ บี้ ยที่เพิ่มขึ้น หรือบางคนตั้งเป้าหมายว่าจะคิดเงิน 10-20% จากค่าตอบแทนรายเดือนเป็นประจำ
แต่กลับถอดใจเนื่องจากเห็นผลิตภัณฑ์ที่ชอบกำลังลดราคารัว ทำให้ต้องควักเงินซื้ อ มาจนได้รวมทั้งแผนการที่อย า กคิดบัญชีก็เลยล้มเหลวไม่เป็นท่า ความล้มเหลวที่คนเหล่านี้ประสบคือ "ความหวาดกลัวแผนการที่ตนอย า กทำ" หรือ ไม่กล้ามีเป้าหมาย ด้วยเหตุว่ากลัวทำไม่ได้ จึงเป็นปัญหาที่สำคัญที่จะทำให้ชีวิตของคุณพังและไม่สามารถหลุดพ้นความขาดแคลนได้สักที
6. คิดมากจนถึงก้าวสู่ความขลาด
คนคิดมากกับคนรอบคอบนั้นไม่เหมือนกัน คนคิดมากจะไม่ลำดับข้อมูลที่ควรที่จะนำมาพินิจพิเคราะห์ แต่จะนำทุกปัญหามารวมกันจนกระทั่งทำให้มองไม่เห็นทางออก แต่ผู้ที่คิดรอบคอบจะคิดเกิดเรื่องๆและก็ลำดับความสำคัญว่าเรื่องใดควรมาก่อนมาข้างหลัง ทำให้คิดเป็นขั้นตอนการและได้คำตอบในแต่ละปัญหาอย่างรวดเร็ว ซึ่งคนชนิดที่คิดมากเมื่อทำธุรกิจ
จะไม่กล้าคิดแผนสำหรับเพื่อการต่อยอดธุรกิจเพื่อสร้างกำไร เพราะเหตุว่ากลัวความล้มเหลว ทำให้เสียโอกาสสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโต หรือ ผู้ที่คิดมากเมื่อดำเนินงานเป็นพนักงานประจำ จะกลัวการเสนอความคิดเห็น หรือ
ไม่กล้าที่จะปฏิบัติงานย า กๆเพื่อพัฒนาตัวเอง ซึ่งเป็นเนื่องจากการพิจารณาโดยใช้ทุกความคิดมารวมกัน จนกระทั่งกลายเป็นความไม่สาบายใจ หรือ ขย า ยกระทั่งเป็นความตาขาว ที่จะรับผิดชอบงานที่ใหญ่ขึ้น ถึงแม้ว่าช่องทางมาอยู่ข้างหน้า
นิสัยพาจน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13475/