หลับไม่ลึก เพราะดื่มน้ำอัดลม? ปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม

[Joe524]

แม้นอนตรงเวลา แต่ตื่นมาแล้วไม่สดชื่น เกิดจากอะไร? สาเหตุหนึ่งที่ไม่ทันคิดถึงก็คือ การดื่มน้ำอัดลมตอนเย็น ซึ่งอาจเป็นตัวการสำคัญที่รบกวนวงจรการนอนโดยไม่รู้ตัว

โค้กส่งผลอย่างไรต่อการนอนหลับ?

🧃 1. คาเฟอีนที่แฝงอยู่ในน้ำอัดลม 
โค้ก 1 กระป๋อง (ประมาณ 325 มล.) มีคาเฟอีนประมาณ 30-45 มิลลิกรัม ซึ่งแม้ไม่เท่าชาหรือกาแฟ แต่ถ้าดื่มหลายกระป๋อง หรือดื่มก่อนนอน คาเฟอีนจะไปกระตุ้นสมองให้ตื่นตัว ทำให้นอนช้ากว่าปกติ หลับไม่ลึก และอาจทำให้คุณตื่นกลางดึกบ่อย ๆ

🍬 2. ปริมาณน้ำตาลในโค้ก 
โค้กมีน้ำตาลสูงมาก (ประมาณ 35 กรัมต่อกระป๋อง) การรับน้ำตาลปริมาณมากก่อนนอนจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงและลดลงเร็ว ส่งผลให้ร่างกาย กระสับกระส่าย หรือแม้แต่นอนไม่เป็นช่วงโดยไม่รู้ตัว

💦 3. มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ 
คาเฟอีนและน้ำตาลในโค้กมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ หากดื่มโค้กมากก่อนเข้านอน ร่างกายอาจต้องลุกไปเข้าห้องน้ำกลางดึก ทำให้วงจรการนอนไม่สมดุล และนอนไม่เต็มอิ่ม

ดื่มโค้กมาก ส่งผลอย่างไรต่อสุขภาพการนอน?

🔸 พักผ่อนไม่พอแม้จะนอนเต็มเวลา
🔸 ง่วงระหว่างวัน สมองล้า ความจำแย่ลง
🔸 หงุดหงิดง่ายแม้เรื่องเล็กน้อย
🔸 เสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
🔸 เสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น ความดัน เบาหวาน

ทำอย่างไรถึงจะหลับได้ลึกขึ้น?

✅ หลีกเลี่ยงน้ำอัดลมหลังช่วงบ่าย
✅ เปลี่ยนมาดื่มน้ำเปล่าเพื่อหลีกเลี่ยงคาเฟอีน
✅ เลือกเครื่องดื่มช่วยหลับอย่าง น้ำสมุนไพร
✅ ควบคุมปริมาณน้ำตาลที่ได้รับในแต่ละวัน ไม่ควรเกิน 25-30 กรัม
✅ {สร้างบรรยากาศการนอนที่ผ่อนคลาย เช่น ลดเสียงรบกวน|เตรียมห้องนอนให้น่านอน เช่น แสงสลัว|ปรับสภาพแวดล้อม เช่น ไม่ดูจอมือถือ)

การดื่มโค้กมากเกินไปก่อนนอน อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ นอนหลับไม่สนิท เพราะโค้กส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อวงจรการนอน

หากคุณต้องการ นอนหลับให้ดีขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการดื่มโค้กช่วงเย็น และเลือกพฤติกรรมที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย เพื่อสุขภาพการนอนที่ดีในระยะยาว