ต้นสังกัด โอม ภวัต ฟ้องแบรนด์ดัง

[Chanapot]

สังกัดเดิม โอม ภวัต ฟ้องแบรนด์ดัง หลังประกาศปลดจากพรีเซ็นเตอร์ จนถึงมิได้ทำผิดข้อตกลง ย้ำเป็นเรื่องในสมัยก่อน-ไม่ขัดต่อข้อบังคับ

วันที่ 20 เม.ย.2566 ที่ ชั้น21 ตึกจีเอ็มเอ็มเอ็งรมมี่ คุณสุจรรยา วิลเลกัส ผู้อำนวยการฝ่ายข้อบังคับ บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด(มหาชน) ตัวแทน บริษัท จีเอ็มเอ็มโทรทัศน์ จำกัด อธิบายกรณีฟ้องดำเนินคดี บริษัท UGO Nutrition จำกัด ข้างหลังบริษัทดังที่กล่าวถึงแล้วร่อนหนังสือประกาศปลด โอม ภวัต จิตต์สว่างดี ผู้แสดงในสังกัดจีเอ็มเอ็มโทรทัศน์ ยุติหน้าที่หน้าที่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์

ต่อเนื่องจากก่อนหน้านี้ โอม ภวัต ผู้แสดงนำชายซีรีส์ดัง เป็นหัวข้อถูกกล่าวถึงในโลกอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับพฤติกรรมในอดีตกาล โดยเจ้าตัวได้ออกมายอมรับว่าเคยบูลลี่แล้วก็แกล้งสหายที่เป็นออทิสติก พร้อมกับได้ขอโทษ รู้สึกผิด รวมทั้งรู้สึกเสียใจ เห็นด้วยว่าเหตุคราวนั้นเป็นบทเรียนราคาสูง ซึ่งพากเพียรปรับแก้ตัวให้ดียิ่งขึ้นมาตลอด

ต่อมาแบรนด์ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นได้ร่อนหนังสือประกาศปลดดารานำชายหนุ่ม โดยมีรายละเอียดประเด็นหลักว่า "ประกาศการหยุดบทบาทพรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ให้กับแบรนด์ UGO Nutrition จากเรื่องของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ที่เป็นข้อความสำคัญในโลกออนไลน์ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทางบริษัท UGO Nutrition ไม่เคยนิ่งดูดาย รวมทั้งได้เป็นฝ่ายติดต่อต้นสังกัดของศิลปินอย่างจริงจังหลายหน แต่ต้นขึ้นอยู่กับเฉยเมยต่อสิ่งที่บริษัทให้ความใส่ใจตลอดมา"

"UGO Nutrition ให้ความเอาใจใส่กับความรัก คุณประโยชน์ความเท่าเทียม เกียรติความเป็นคน และก็ความรับผิดชอบพวกเราก็เลยตกลงใจเลิกหน้าที่พรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี เมื่อวันที่ 12 ม.ย. 2566 เป็นต้นไป บริษัท ยูโก นูทรีชันน์ จำกัด" ดังที่เสนอข่าวสารไปแล้วโดย คุณสุจรรยา บอกว่า "ที่มาในวันนี้ก็เพราะในกรณีที่ทางบริษัท UGO Nutrition จำกัด ได้มีประกาศจบบทบาทการเป็นพรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี โดยที่ไร้เหตุผลอันควรจะสำหรับในการที่เลิกหน้าที่พรีเซ็นเตอร์อันนั้น รวมถึงทางจีเอ็มเอ็มโทรทัศน์ไม่ได้มีการผิดสัญญาหรือไม่ถูกข้อตกลงอะไรก็ตามกับทางบริษัท UGO ซึ่งการที่ UGO ออกประกาศลักษณะแบบงั้นทำให้บริษัทแล้วก็นักแสดงก็คือคุณโอม ได้รับความเสื่อมโทรม เสียหายกิตติศัพท์"



"ตั้งแต่แมื่อมีกรณีกล่าวถึงคุณโอมในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเกิดเรื่องในอดีตกาลของคุณโอมในวัยเด็ก เป็นการปฏิบัติที่ไม่ได้ขัดต่อกฎหมายนะคะ ต้องบอกแบบงี้ แล้วทางบริษัทเองไม่เคยละเลย พวกเราไม่เคยนิ่ง พวกเรามีการติดต่อสนทนากับทาง UGO มาตลอด มีการเจรจาเพื่อหากติการ่วมกัน"

"พวกเราเจรจากันมาหลายครา จนถึงวันก่อนพื้นที่ UGO จะมีประกาศตัวนั้นออกมาด้วยซ้ำ ดังนั้นการที่ UGO มีประกาศเลิกบทบาทพรีเซ็นเตอร์ออกมา ทางบริษัทจีเอ็มเอ็มโทรทัศน์ได้รับความเสียหาย ทางจีเอ็มเอ็มทีวีรวมทั้งนักแสดงเลยจำเป็นต้องขอความชอบธรรมในกรณีนี้ เพื่อรักษากิตติศัพท์แล้วก็เกียรติภูมิของบริษัท รวมทั้งศิลปิน โดยเราคงจำต้องขอพึ่งทางกรรมวิธีการของศาลยุติธรรม เพื่อรักษาไว้ซึ่งสิทธิ์รวมทั้งความทรุดโทรมในเรื่องของความโด่งดังของบริษัท แล้วก็ศิลปินต่อไปค่ะ"

เป็นได้หรือเปล่าว่า จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอยู่กับโอมมีผลเสียกับทางแบรนด์ จึงส่งผลให้ตัดสินใจจบหน้าที่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ ถึงแม้สิ่งที่โอมทำจะไม่ผิดกฎหมาย แต่อาจจะไม่ถูกในด้านของจริยธรรม? "อันนี้ทางพวกเราคงจะตอบไม่ได้ อาจจะจะต้องถามทาง UGO ค่ะ แต่ในข้อจำกัดข้อตกลงมิได้มีเจาะจงเกี่ยวกับหัวข้อนี้เอาไว้ เดี๋ยวนี้ทางเราปฏิบัติงานฟ้องไปแล้ว ยื่นฟ้องละเมิดค่าเสียหาย ส่วนจำนวนเงินที่ฟ้องไป อันนี้อาจไม่สามารถพูดได้เนื่องจากเป็นข้อมูลในคดี"

ถ้าเกิดทาง UGO ติดต่อมาขอไกล่เกลี่ย? "จริงๆมันอยู่ในแนวทางการของทางศาล อย่างไรทางคู่ความอีกฝั่งหนึ่งเขาย่อมจำเป็นต้องได้รับคำฟ้องอยู่แล้วค่ะ แนวทางการทางศาลจำเป็นต้องเจอะกันอยู่แล้ว ถามว่านอกรอบไม่มีแล้วใช่ไหม มันยังตอบมิได้ เรายังไม่ทราบ เนื่องจากเรายังมิได้รับการติดต่อมาจ้ะ"

การที่ตัดสินใจฟ้องเป็นเพราะทางนั้นเขาร่อนจดหมายออกมาใช่ไหม? "เขามิได้ร่อนจดหมายนะคะ จู่ๆเขาก็ประกาศ ทั้งที่เราพูดจากันตลอดเรื่อยๆมา จนก่อนวันประกาศพวกเราก็ยังมีการคุยกัน แต่จู่ๆเขาก็ประกาศ ซึ่งทางเราไม่เคยทราบจ้ะ"

ภายหลังที่เขาประกาศไปแล้ว บริษัทได้รับผลพวงมากไหม? "ก็จากที่สื่อออกข่าวสารก็ส่งผลเสียกับกิตติศัพท์ของน้องรวมทั้งบริษัทค่ะ (จากดราม่านี้ยังมีผลต่อกับผลิตภัณฑ์อื่นๆหรืองานอื่นๆของโอมอีกไหม?) ในเวลานี้ยังไม่เป็นผลกระทบจ้ะ"

ดูกระแสดราม่าของโอมอย่างไร เพราะว่าคนจำนวนไม่น้อยมองว่าบริษัทไม่ได้ออกมา Take Action อะไรเลย? "ทางบริษัทเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดในสมัยก่อนและก็เป็นเรื่องในวัยเด็ก โดยทางสถานศึกษาก็ได้ลงทัณฑ์ตามกฎระเบียบของสถานที่เรียน เขาได้รับการลงอาญาไปแล้ว น้องเองก็ได้ขออภัยไปแล้ว และมันไม่ใช่เกิดเรื่องที่กระทำผิดต่อกฎหมายว่ากันอย่างนั้นเถอะ ฉะนั้นพวกเรามิได้เฉย แต่นี่คือเหตุผลอย่างที่กล่าวว่าเกิดเรื่องในอดีต แล้วก็เขาได้รับการลงอาญาตามวัยของเขา คือเวลานี้เขายังเด็กอยู่"

แม้กระนั้นคนก็ยังขุดประเด็นนี้ออกมาอีก เนื่องจากต้องการที่จะให้บริษัทออกมาพูดบ้าง? "เป็นอันนี้คิดว่าในทางของคนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์เราอาจห้ามมิได้ว่าคนใดจะคิดอย่างไร แม้กระนั้นในทางของบริษัทมองที่ความเป็นจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น ความเป็นมนุษย์จ้ะ คือมันจำต้องมองจากเรื่องจริงที่เกิดมากยิ่งขึ้นกว่าที่จะไปวินิจฉัยตามกระแสสื่อสังคมจ้ะ"

ในตอนนี้ภาวะจิตใจของโอมเป็นอย่างไรกันบ้าง? "ก็อาจจะไม่ดีหรอกจ้ะ (โอมโดนโจมตีในโซเชียลเยอะแยะ เขามาขอให้ดูแลเรื่องกฎหมายไหม?) อันนี้ยังไม่เคยทราบเรื่องนะคะ เนื่องจากว่าถ้าเราจะมองก็อาจเป็นในแง่ของหัวข้อการทำที่ละเมิดหรือตรงข้ามข้อบังคับ ฝ่าฝืนสิทธิของน้อง พวกเราถึงจะมองค่ะ"

การที่บริษัทยื่นฟ้องทางแบรนด์นั้น กลัวคนจะเห็นว่าค่ายคุ้มครองป้องกันโอมเกินความจำเป็นไหม? "จำต้องพูดว่าอันนี้เป็นเรื่องของข้อพิสูจน์และเป็นเรื่องของธุรกิจนะคะ มันเกิดขึ้นจริง อย่างกลางแจ้งว่าเราไม่ได้เป็นข้างจบการเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะฉะนั้นอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับกระแสสังคมจะวินิจฉัยจากข้อสรุปที่เกิดขึ้นค่ะ"
โอม ภวัต
ขอบคุณข้อมูลจาก https://freelydays.com/13731/