• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตับมีปัญหา เป็นต้นเหตุ ? รักษาได้ยังไง ?

Started by PostDD, January 07, 2023, 10:48:04 AM

Previous topic - Next topic

PostDD

ตับมีปัญหา จะต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกที เพราะว่าถ้าปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบจนเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง และก็โรคมะเร็งตับได้เช่นกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายชื่อดัง กล่าวย้ำเตือนถึงความสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย ถ้าหากคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และก็เมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนคืนมาดังเดิมได้" แล้วเราจะทราบได้เช่นไรว่าตับกำลังเจอปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? แล้วก็ควรจะดูแลบำรุงอย่างไร..? บทความนี้มีคำตอบให้คุณ  อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นเสมือนศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บผลิตภัณฑ์ (เก็บกักสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งยังโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด ฯลฯ) รวมทั้งยังเป็นโรงงานแปรรูป (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะใช้ประโยชน์เป็นพลังงาน) ถ้าหากร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็เสมือนตายทั้งเป็น คำกล่าวที่ว่าตับเป็นเสมือนหัวใจดวงที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการสร้าง
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อสุขภาพร่างกาย ซ่อมบำรุงส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็ง อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ปฏิบัติหน้าที่ เป็นองค์ประกอบของเลือด ดังเช่นว่า อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารรวมทั้งเกลือแร่เอาไว้ภายในหลอดเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยเผาผลาญไขมัน รวมถึงมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารจำพวกไขมัน แล้วก็ถึงสารตั้งต้นของฮอร์โมนบางประเภท
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินรวมทั้งเกลือแร่บางประเภทที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยแปรรูป ของกินแล้วก็ยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองสารพิษในเลือด
- ขับของเสียออกจากร่างกายในแบบปัสสาวะ หรือถ่ายมาพร้อมกับน้ำดี  สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องพบเจอปัญหาทรุดโทรมสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยอีกทั้งจากเชื้อไวรัส หรือโรคที่เกิดขึ้นและมีสาเหตุมาจากพันธุกรรมตั้งแต่กำเนิด แต่หลักๆที่ทำให้คนจำนวนมากมีการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักมีสาเหตุมาจากการกระทำทำร้ายตับยกตัวอย่างเช่น
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบทานอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานมาก มีความเครียด
4.ชอบนอนดึกดื่น ตื่นสาย
5.รับประทานยาหรืออาหารเสริมมากเกินความจำเป็น
6.ขาดการบริหารร่างกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารตอนเช้า
9.ชอบกินอาหารครึ่งดิบครึ่งสุก
10.ปฏิบัติงานเกี่ยวกับ สารพิษ สารเคมี
11.มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลพวกนี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมทุกวันซึ่งเราบางทีอาจจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพบ ก็เลยปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานมาก 24 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในแต่ละวันอีกด้วย โดยเราอาจจะลองสังเกตอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา ดังเช่นว่า มีลักษณะเหน็ดเหนื่อยง่าย อ่อนล้า , มีปัญหาในการนอนหลับ , ท้องอืดบ่อยๆ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความต้องการอาหารลดน้อยลง , แขนขา ท้องบวมโต ฯลฯถ้าคุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวแล้วยังไม่เอาใจใส่กลับมาดูแลตับอีก.. รู้ตัวอีกทีความน่ากลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดก็ในขั้นร้ายแรงอย่างตอนเป็นตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับไปเสียแล้ว  การดูแลรักษาตับเบื้องต้น
"ตับ" เป็นอวัยวะสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ โดยทางทฤษฎีถ้าหากเราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ ด้วยเหตุนี้เมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับโดยไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตัวเองได้ แม้กระนั้นไม่ได้แปลว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเฉยเมยให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ ด้วยเหตุว่าหากตับอักเสบซ้ำๆจนเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นโรคตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้น ยิ่งโรคมะเร็งยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง.. สิ่งจำเป็นที่สุดคือ การตั้งใจบำรุงตับเพื่อคุ้มครองไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในตอนหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรเริ่มเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงเยอะขึ้นเรื่อยๆ
(1) ปรับพฤติกรรมการทานอาหาร
ลดอาหารไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดปริมาณไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
เลี่ยงของว่าง เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นและรสชาติแทนน้ำตาลและผงชูรส
ทานอาหารปรุงสุก รักษาสุขอนามัย ลดการเสี่ยงสำหรับในการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
ออกกำลังกายให้ได้ 150 นาที/อาทิตย์ (หรืออย่างน้อย 60 นาที/อาทิตย์)
ระหว่างที่ทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือเปลี่ยนแปลงอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกฝนการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปขจัดของเสียในเลือด รวมถึงก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) เลี่ยงการรับสิ่งเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่สามารถที่จะเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบยาสูบให้ลดลงที่สุด
เลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือรอบๆที่มีการปนเปื้อนของสารเคมี รอบๆที่มีฝุ่นควัน มลพิษหนาแน่นถ้าหากปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอย่างเดิม เพิ่มเติมคือถ้ามีความรู้สึกว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราอาจทำเป็นยาก ลองมองเทคนิคน่าสนใจ ที่สามารถช่วยคลีนตับเราได้กัน..  เคล็ดลับ(ไม่)ลับน่าสนใจ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องรับประทาน..เรื่องสำคัญ" อาหารที่เรารับเข้าไปในทุกวันก็นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ให้แก่ตับได้เช่นกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดียิ่งขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นกับว่าเรารับประทานอะไรลงไป.. รวมทั้งนี่คือ 3 ตัวช่วยน่าสนใจที่สามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเห็นได้ตามตลาดทั่วๆไป เปิดตู้เย็นเราก็เจอ แต่ว่าเครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้แฝงไปด้วยคุณประโยชน์ที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ และก็ป้องกันตับจากพิษ รวมถึง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่การค้นคว้าว่ากระเทียมผงช่วยในการลดไขมันในผู้ที่มีภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
แม้ชื่อจะไม่คุ้นหูใครหลายคน แต่ว่ามันเป็นสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากประเทศฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ แล้วก็ลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์เป็น กรดโอลีโนลิกรวมทั้งกรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณลักษณะเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมถึงสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งส่งผลให้ตับมีสุขภาพดี ทำงานได้อย่างเต็มความสามารถตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวถือเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นดีเลิศ โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการวิจัยว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆในร่างกาย อีกทั้งพบว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียวปริมาณ 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย และก็ยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆตลอดวันยังช่วยดีท็อกซ์ชะล้างสารพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมกระทั่งโรคร้ายอาจถามหาแบบไม่ทันรู้ตัว เมื่อจำเป็นต้องใช้ชีวิตและมีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นสิ่งสำคัญซึ่งสามารถป้องกันแล้วก็ลดความเสี่ยงในการเป็น ตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับ โรคยอดฮิตที่คร่าชีวิตชาวไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเราสร้างขึ้นเองได้.. โดยแม้สงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับต้องการขอคำแนะนำผู้ชำนาญ ขอรับข้อเสนอแนะปัญหาด้านสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage รวมทั้ง Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญรวมทั้งเภสัชกรพร้อมให้คำปรึกษาคุณในตลอดเวลา